จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 เป็นที่สั่นสะเทือนต่อประเทศเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในเชิงสังคมและเศรษฐกิจที่ได้รับ ผลกระทบที่ผู้คนได้รับจาก COVID-19 ครั้งนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนที่ติดเชื้อไวรัส กลุ่มคนที่ตกงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยวันนิ้ Admin จะมาพูดถึงปัญหาที่ประชากรวัยทำงานกำลังพบเจอ นั้นก็คือ ภาวะตกงานนั้นเอง
การแพร่ระบาดของเชื้อที่รวดเร็วและง่ายดายส่งผลให้ทั่วโลกได้มีการออกมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing) อย่าฉุกเฉิน ในส่วนของประเทศไทยก็ได้ออก พรก.ฉุกเฉินโดยมีคำสั่งปิดห้าง ร้าน และบริกการหลายส่วน ยกเว้นร้านค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการอุปโภคและบริโภค และการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ก็ได้มีการออกมาตรการห้ามประชากรออกนอกบ้างหลัง 22.00 – 04.00 น นั้นทำให้ธุระกิจขนาดเล็กจำนวนมากต้องหยุดกิจการชั่วคราว ส่งผลให้แรงงานส่วนใหญ่ ต้องกลายเป็นผู้ไร้งานทำในทันทีโดยไม่ได้ตั้งตัวมากสักเท่าไร
ยอดผลกระทบต่อแรงงานไทย จากวิกฤต COVID-19
จากภาพข้างบนได้ เป็นการแสดงนอดแรงงานที่มีอยู่ในไทย โดยมีดังนี้ แรงงานนอกระบบ มีอยู่ 21.2 ล้านคน และ แรงงานในระบบ มีอยู่ 16.4 ล้านคน ซึ่งรวมผู้มีงานทำในประเทศไทยได้ 37.6 ล้านคน ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤตครั้งนี้ ทำให้มีแรงงานที่ต้องตกงานจากผลกระทบ โดยมีดังนี้ แรงงานนอกระบบในกรุงเทพฯ มีอยู่ 2.13 ล้านคน และ พนักงงานบริการในร้านค้าและตลาด 7.75 ล้านคน ซึ่งรวมผู้ตกงานในประเทศไทยได้ 9.88 ล้านคน ซึ่งนั้นนับเป็นฝันร้ายต่อภาคแรงงานและเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นอย่างมาก เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีผู้คนกลุ่มไหนบ้างที่ได้รับ ผลกระทบที่ผู้คนได้รับจาก COVID-19 ครั้งนี้
อ่านข่าวเกี่ยวกับ COVID-19 เพิ่มเติม :
– ทำความรู้จักกับแอป “Away Covid-19”
– !!! โควิด-19 ไวรัสหยุดโลก !!!
– ทำไมต่างประเทศรณรงค์ไม่ควรใส่หน้ากากอนามัย?
– เปิดไทม์ไลน์ Covid-19 ตลอดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา?
ผู้ได้รับ ผลกระทบที่ผู้คนได้รับจาก COVID-19
1. คนที่มีอาชีพอิสระ หรือทำงานรับจ้างแบบงานแลกเงิน
คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่หาเช้ากินค่ำ โดยถ้าไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน (no work no pay) ซึ่งถ้าหากคนกลุ่มนี้ประสบผลกระทบคงลำบากมาก เพราะอย่าถามถึงเงินเก็บ แค่เงินพอใช้ในแต่ละวันยังลำบาก คนกลุ่มนี้มีหลายคนที่เป็นหนี้ ถ้าให้ถามระหว่างอดตายกับเป็นโรคตาย เชื้อว่าเค้าก็ต้องออกมาทำงานแทนที่จะอยู่บ้าน เพราะเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา
2.คนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน
แม้คนกลุ่มนี้จะดูดีกว่าคนกลุ่มแรก แต่ก็มีหลายคนที่ถูกเลิกจ้าง หลายคนถูกลดเงินเดือน แม้ว่าจะยังโชคดีที่มีประกันสังคมมาช่วยแบ่งเบาภาระให้บ้าง แต่ก็ช่วงแค่ในช่วงเวลาและเงินที่จำกัด แต่หากจะรอให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ก็ใช่ว่า ผละกระทบนี้จะหมดไปทันที ในทางกลับกัน อาจทำให้เจ้าของธุรกิจเริ่มพิจารณาความจำเป็นของค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าอันไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็น การจ้างงานก็คงอาจมีการพิจารณามากขึ้น รูปแบบธุรกิจคงอาจเปลี่ยนแปลงไปใช้ Online กันมากขึ้น ดังนั้นในช่วงว่างงาน ลูกจ้างควรศึกษาหาช่องทางการเงินจากช่องทางอื่น และศึกษาความรู้เยอะๆ ไว้ก่อนเผื่อหากวันใดเราตกงานจริงเราจะได้ยังมีช่องทางอื่นรองรับอยู่ อย่าประมาทกันนะครับ
3.เจ้าของธุรกิจ
คนกลุ่มนี้ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนจะไม่น่ามีผลกระทบแต่ในความเป็นจริงแล้ว คนกลุ่มนี้ก็ยังโดยผลกระทบไปด้วยเช่นกัน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม คือ
- นายจ้างที่ยังคงดำเนินธุรกิจต่อ แต่ในการให้ธุรกิจรอด ก็คือการพูดคุยกับลูกจ้างในการลดอัตราค่าจ้าง และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างโดยการทำเป็นหนังสือให้ลูกจ้างลงนาม
- นายจ้างที่เลือกหยุดกิจการชั่วคราวเพราะภาวะเศรษฐกิจ เช่น การปิดกิจการเพราะไม่มีลูกค้า เป็นต้น ในกรณีนี้นายจ้างยังคงต้องจ่ายเงินเดือนให้กับลูกจ้างอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน(ฉบับที่2) พ.ศ2551 มาตรา 75
- นายจ้างที่ปิดกิจการชั่วคราวโดยมีสาเหตุมาจากเหตุสุวิสัยที่ไม่อาจโทษนายจ้างได้ เช่น แผ่นดินไหว หรือภาครัฐมีคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราวอย่างตอนนี้ เป็นต้น ต้องถือว่าการที่นายจ้างไม่อาจมอบงานให้ลูกจ้างทำได้เป็นกรณีการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย นายจ้างย่อมหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตาม ป.พ.พ มาตรา 219
- นายจ้างที่เลือกปิดกิจการหรือเลือกที่จะเลิกจ้างพนักงานไปเลย ในกรณีแบบี้ที่นายจ้างเลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่ได้กระทำผิด นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานมาตรา 118
4.คนที่มีเงินออมเก็บไว้
คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีการคาดคะเนถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตตลอดเวลา เพื่อให้เราสามารถเตรียมพร้อมที่จะรับมือต่อเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดไว้ได้ตลอดเวลา โดยในภาวะที่ทุกคนเดือนร้อนกันหดมกับวิกฤตที่เกิดขึ้น แต่คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ยังคงสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ เพราะเขาได้มีการเตรียมตัวตลอด ไม่ว่าจะเป็น การออมเงิน สะสมความรู้ ความสามารถ และอีกทั้งอาจมีโอกาสได้ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ได้ ดังคำที่กล่าวว่า “โอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ”
จากที่เราได้พูดกันไปถึงกลุ่มคนที่ได้รับ ผลกระทบที่ผู้คนได้รับจาก COVID-19 ผู้อ่านทราบหรือยังว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหน แต่นั้นก็ไม่ได้เป็นตัวระบบุว่าเราจะต้องอยู่แค่กลุ่มนั้นตลอดไป ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่หลังจากนี้เราอยากอยู่กลุ่มแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเอง
แต่ในความโชคร้ายที่เรากำลังเผชิญอยู่ ก็ได้มี การรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 ได้เปิดให้ผู้คนที่ตกงาน ได้มีการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาตามมาตรการของรัฐบาล ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com แต่ในการขอสิทธิ์ จะต้องผ่านการตรวจสอบขอสิทธิ์ หากใครผ่านเกณฑ์ จะได้รับข้อความและจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีที่เราลงทะเบียน ส่วนใครที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จะมีการแจ้งให้ทราบพร้อมเหตุผล
อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณี COVID-19 ได้ที่ ศูนย์ข้อมูล COVID-19
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก :
https://www.hoonsmart.com/archives/108296
https://techsauce.co/news/gov-help-thai-people-covid-19-remedial-measure-5000
เรามี 1 ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เล็กกะทัดรัด และที่ลวดลายที่หรูหรา ที่สำคัญมีการใช้งานที่ง่ายๆ มาก เพียงแต่นำหัวน้ำยาใส่ก็สามารถสูบได้เลย ในทางกลับกัน บุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีการทำลวด ใส่สำลี และหยดน้ำยา ถึงจะสามารถสูบได้ ทุกคนอ่านแล้วคิดว่ามันสะดวกและดีใช่ไหมล่ะผลิตภัณฑ์ที่เราจะแนะนำนั้นก็คือ “ RELX ” หากคุณกำลังมองหาวิธีการเลิกบุหรี่ หรือหาสิ่งทดแทน คุณห้ามพลาด RELX สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน อย่ารอช้าลองเลย
และ เราขอนำเสนอ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในปี 2020
KARDINAL STICK POD
ด้วยความปราถนาดีจาก
: JUST RELX THAILAND
https://relxnowthailand.com/
: RELX THAILAND
https://relxthailandclub.com/
: KARDINAL STICK THAILAND
https://kardinalthailand.com/
#relx
#relxthailand
#relxnowthailand
#สุขภาพที่ปลอดภัย
#Kwitsmoking
#ksThailand
#kardinalstick
#ks
#kardinalstickth
#เลิกบุหรี่
#นวัตกรรมช่วยเลิกบุหรี่